ความท้าทายที่ผู้เรียนภาษาจีนที่ต้องเจอ และวิธีเอาชนะ

Create By :

BY SIRETHORN L.

แชร์บทความ

คัดลอกลิงก์

ลิงก์ถูกคัดลอกไปยังคลิปบอร์ดแล้ว

การเรียนภาษาจีนเป็นการผจญภัยที่น่าตื่นเต้น แต่ในขณะเดียวกันก็เต็มไปด้วยความท้าทายที่ผู้เรียนหลายคนต้องเผชิญ ทั้งในด้านไวยากรณ์ การออกเสียง และระบบตัวอักษรที่ไม่เหมือนภาษาอื่น ๆ แต่การเอาชนะอุปสรรคเหล่านี้จะเป็นเรื่องง่าย ๆ ถ้ามีเทคนิค และวิธีการที่เหมาะสม มาดูกันว่าความท้าทายหลัก ๆ ที่ผู้เรียนภาษาจีนต้องเจอมีอะไรบ้าง และเราจะเอาชนะมันได้อย่างไร

1. การเรียนรู้ตัวอักษรจีน (Hanzi)

อักษรจีน (Hanzi) มีจำนวนมาก และแต่ละตัวไม่สามารถเดาได้จากการออกเสียง ดังนั้นการต้องจำอักษรจีนอาจทำให้หลายคนรู้สึกท้อถอย แม้ว่าอักษรบางตัวจะดูเหมือนกัน หรือคล้ายกัน แต่ความหมาย และการใช้งานอาจแตกต่างกันอย่างสิ้นเชิง
วิธีเอาชนะ:

• แบ่งเป็นหมวดหมู่: แทนที่จะพยายามจำตัวอักษรจีนทั้งหมดในครั้งเดียว ลองแบ่งตัวอักษรออกเป็นหมวดหมู่ตามความคล้ายคลึงกัน หรือการใช้งานในชีวิตประจำวัน แล้วค่อย ๆ จำทีละนิดนทีละหน่อย
• ใช้เทคนิคการจำแบบ storytelling: เทคนิคการจำแบบ "storytelling" หรือการสร้างเรื่องราวจากรูปร่างของอักษรจีนจะช่วยให้จำได้ง่ายขึ้น
• ฝึกเขียนทุกวัน: การเขียนอักษรเป็นการฝึกมือ และความจำไปพร้อมกัน ช่วยให้สามารถจำได้ดีขึ้น

2. การออกเสียงและโทนเสียง (Tones)

ภาษาจีนมีเสียงโทนที่สำคัญ (4 โทน) ซึ่งการออกเสียงผิดอาจทำให้ความหมายของคำเปลี่ยนไปโดยสิ้นเชิง เช่น คำว่า "妈" (Mā) แปลว่าแม่ และ "马" (Mǎ) แปลว่าม้า ซึ่งมีเสียงคล้ายกันแต่ต่างโทน
วิธีเอาชนะ:

• ฝึกออกเสียงกับเจ้าของภาษา: การฝึกออกเสียงจากเจ้าของภาษา หรือใช้แอปที่มีการสอนโทนเสียง จะช่วยให้เราได้ยินตัวอย่างที่ถูกต้อง
• บันทึกเสียงตัวเอง: การฟังเสียงตัวเองและเปรียบเทียบกับต้นฉบับจะช่วยให้เรารับรู้จุดที่ต้องปรับปรุง
• ฝึกออกเสียงในชีวิตประจำวัน: พยายามใช้ภาษาจีนในสถานการณ์จริงหรือกับเพื่อนๆ ที่พูดจีนให้มากที่สุด

3. ไวยากรณ์ที่แตกต่างจากภาษาไทย

ไวยากรณ์ภาษาจีนแตกต่างจากภาษาไทยอย่างมาก เช่น ภาษาจีนไม่ใช้การผันกริยาในรูปต่างๆ (เช่น เขียน "ไป" หรือ "ไปแล้ว" ก็ใช้คำเดียวกัน คือ "去") หรือไม่มีกฎการวางคำเหมือนภาษาไทยที่สามารถสังเกตได้ง่ายๆ
วิธีเอาชนะ:

• เข้าใจหลักการใช้คำในประโยค: การเรียนรู้โครงสร้างประโยคที่ง่าย เช่น ประโยค "S + V + O" จะช่วยให้เราฝึกได้ดีขึ้น
• ฝึกทำแบบฝึกหัด: การทำแบบฝึกหัดที่เน้นเรื่องไวยากรณ์อย่างสม่ำเสมอจะช่วยให้ความเข้าใจและการใช้ภาษาในประโยคธรรมชาติ
• ฟังและอ่านบ่อย ๆ: การฝึกฟังบทสนทนาหรืออ่านหนังสือภาษาจีนจะทำให้เราคุ้นเคยกับรูปแบบการใช้ไวยากรณ์

4. ความยากในการแปลความหมายของคำบางคำ

บางคำในภาษาจีนไม่สามารถแปลตรงตัวเป็นภาษาไทยได้ เช่น คำว่า "面子" (miànzi) ที่แปลว่า "เกียรติยศ" หรือ "หน้าตา" ซึ่งมีความหมายที่ลึกซึ้งในแง่ของวัฒนธรรมจีน
วิธีเอาชนะ:

• ทำความเข้าใจในเชิงวัฒนธรรม: การเรียนภาษาจีนควรคู่กับการศึกษาวัฒนธรรมจีน เพราะหลายคำในภาษาจีนสะท้อนถึงแนวคิดและค่านิยมในสังคมจีน
• ใช้บริบทช่วยในการแปล: อย่าแปลคำแต่ละคำแบบตรงตัว แต่ควรดูจากบริบทของประโยค หรือเรื่องราวก่อนหน้า ที่จะทำให้เราเข้าใจความหมายที่ถูกต้อง

5. ความสามารถในการเข้าใจภาษาในการสนทนา

ภาษาจีนมีลักษณะของการพูดที่ไม่เป็นทางการ และมักใช้สำนวนที่ไม่สามารถแปลได้ตรงๆ ผู้เรียนบางคนจึงอาจรู้สึกว่าฟังภาษาจีนไม่ค่อยเข้าใจ
วิธีเอาชนะ:

• ฟังบทสนทนาหรือดูหนัง/ซีรีส์จีน: การฟังภาษาจีนจากหนัง หรือซีรีส์ จะช่วยให้เราเข้าใจการใช้ภาษาจีนในชีวิตประจำวันมากขึ้น
• ฝึกฟังจากหลายแหล่ง: ฟังทั้งข่าวสาร, เพลง, และบทสนทนาของผู้พูดภาษาจีนเพื่อเสริมทักษะการฟังในหลากหลายบริบท และช่วยให้เราเรียนรู้คำศัพท์ที่ทันสมัย หรือคำแสลงใหม่ ๆ เพิ่มมากยิ่งขึ้น
• ใช้แอปพลิเคชันฝึกฟัง: หลายแอปช่วยให้เราฝึกฟังในระดับต่างๆ และยังมีคำแปลให้เข้าใจง่าย

สรุป

การเรียนภาษาจีนไม่ใช่เรื่องง่าย แต่เมื่อเรามีวิธีการเรียนที่เหมาะสม และฝึกฝนอย่างสม่ำเสมอ ความท้าทายเหล่านี้ก็จะกลายเป็นสิ่งที่สามารถเอาชนะได้ ความสำเร็จในการเรียนภาษาจีนไม่ได้มาจากการพยายามเรียนรู้ทั้งหมดในเวลาอันสั้น แต่จะมาจากการฝึกฝนทีละเล็กทีละน้อยและพัฒนาตัวเองอย่างต่อเนื่อง